แดเนียล โวโซวิค เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเขาเป็นตัวเต็งในรายการแข่งขัน Project Runway ซึ่งเป็นเวทีเรียลลิตี้โชว์ที่คัดเลือกเอาดีไซเนอร์มือใหม่ มาร่วมแข่งขันเพื่อทำภารกิจตามโจทย์ที่ทางรายการตั้งไว้ และให้ชาวอเมริกันทั่วประเทศช่วยกันโหวตเพื่อให้โอกาสแก่เหล่าดีไซเนอร์ได้ไปต่อตามเส้นทางที่วาดหวังไว้ พร้อมด้วยเงินรางวัลที่จะเป็นทุนในการทำธุรกิจเสื้อผ้าในอนาคตได้แบบสบายๆ
แดเนียล โวโซวิค เป็นคนที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศในรายการ “Project Runway” ซีซั่น 2 แต่มันยังคงเป็นข้อกังขาด้วยความไม่โปร่งใสของการแข่งขัน เนื่องจากชาวอเมริกันส่วนใหญ่คลั่งไคล้โวโซวิคกันมาก แต่ผลการแข่งขันดันพลิกโผให้ชัยชนะเป็นของ Chloe Dao ซึ่งแน่นอนว่า คนอเมริกันย่อมไม่อยู่นิ่งเฉยกับการตัดสิน ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา และเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดได้ขึ้นเพราะ ในเวลานั้น โวโซวิค ได้เป็นขวัญใจมหาชนอเมริกันไปแล้วเต็มตัว
แดเนียล โวโซวิค ดีไซเนอร์ขวัญใจมหาชนชาวอเมริกัน
และต่อมาทีมงาน “Project Runway” ก็ได้คิดโปรเจ็คใหม่ ที่คัดเอาดีไซเนอร์ที่ชนะการแข่งขันในรุ่นก่อนๆ มาแข่งขันกันอีกครั้งเพื่อหาสุดยอดดีไซเนอร์ในโครงการ Project Runway’s All-Star Challenge. และในการแข่งขันโปรเจ็คนี้ ทำให้ แดเนียล โวโซวิค ได้โชว์ความสามารถที่สะสมตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการแฟชั่น และเขาสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ ด้วยเงินรางวัลสูงถึง 100,000 ดอลล่าสหรัฐ เป็นการตอกย้ำความเป็นสุดยอดดีไซเนอร์ที่ได้รับการยอมรับจากมหาชนอีกครั้งหนึ่งอย่างเต็มภาคภูมิ สร้างความฮือฮากลบข่าวที่ไม่โปร่งใสในการแข่งขันในซีซั่นที่ 2 ที่โวโซวิคเป็นเพียงแค่รองแชมป์ได้อย่างสนิทใจ
นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ ที่เด็กหนุ่มอายุเพียง 27 ปีในขณะนั้น สามารถสร้างผลงานให้คนอเมริกันทึ่งในแนวคิด และยอมรับในความเป็นตัวตนของเขา งานออกแบบของโวโซวิค เป็นรูปแบบของเสื้อผ้าที่ใช้งานได้จริงบนโลก มันไม่ใช่แฟชั่นที่เกินจริง ไม่ใช่แฟชั่นที่มีราคาแพง แต่มันเป็นเสื้อผ้าแบบที่พบเห็นแล้วรู้สึกได้ว่า มันเป็นชุดที่ใช่ ผู้สวมใส่จะไม่สามารถปฏิเสธมันได้เมื่อเห็นมันวางอยู่ตรงหน้า และที่สำคัญ มันเป็นเสื้อผ้าที่ใครๆก็เอื้อมถึง
ชีวิตของแดเนียล โวโซวิค วนเวียนอยู่ในเรื่องราวของเสื้อผ้าและแฟชั่น ทุกลมหายในเข้าออกของเขาเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ที่พร้อมจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะที่จะปรากฏอยู่บนเสื้อผ้าทุกชิ้นที่เขาเป็นคนออกแบบ โวโซวิค กล้าพอที่จะเสนอแนวคิดการออกแบบเสื้อผ้า ด้วยภาพพิมพ์ลวดลายที่เขาชื่นชอบ เขามีเครื่องพิมพ์ภาพลงบนเสื้อผ้าที่จะสามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้ และเขาพูดได้อย่างเต็มปากว่างานของเขาจะสามารถทำก๊อปปี้ออกมามากเท่าไหร่ก็ได้ เพราะเขาใช้เทคโนโลยีที่ทำมาเพื่อสิ่งเหล่านั้นอยู่แล้ว นั้นการออกแบบของโวโซวิค จึงไม่ใช่แนวคิดที่จะสร้างความพิเศษที่แสนหรูหรา แต่มันเป็นแนวความคิดของการทำเสื้อผ้าแบบที่ทำเพื่อให้มหาชนได้ใช้งานมันอย่างจริงจัง
ด้วยแนวคิดที่แตกต่างกับดีไซเนอร์ชื่อดังคนอื่นๆ ทำให้ เสื้อผ้าที่โวโซวิคออกแบบ กลายเป็นยูนิฟอร์มของพนักงานโรงแรมกว่า 150 แห่งทั่วอเมริกา และเขาก็ยังคงเดินหน้าสร้างเสื้อผ้าพื้นๆที่มีเอกลักษณ์และเกินห้ามใจต่อไปเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้